วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

แฟน.. จบกันไปก็มีแต่ “อดีต”
เรียน.. จบกันไปก็มีแต่ “อนาคต

วันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

จริงอยู่ที่โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล มีพื้นที่ให้ยืนจับจองมากมาย แต่สำหรับ "ความรัก" ไม่ว่าโลกใบนี้จะกว้างขนาดไหน มันก็คงไม่กว้างพอที่จะมีพื้นที่ให้คนสามคนยืน และจับจูงมือไปพร้อม ๆ กันหรอกนะ เพราะใคร ๆ ก็คงอยากมีพื้นที่เล็ก ๆ ให้หัวใจของคนสองคนได้จับจอง ดูแลกันและกัน แบ่งปันความรู้สึกดี ๆ ให้กันและกัน จนเกิดความรู้สึกอบอุ่นใจกันทั้งนั้น

          อาจเพราะความรักเป็นเรื่องราวของคนสองคน ถ้ามันมีมากกว่าสอง อะไร ๆ มันคงไม่เหมือนเดิม จากที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา แชร์ความรู้สึกกันและกัน แต่เมื่อมีบุคคลที่สามเข้ามา ก็ต้องแบ่งปันเวลา รวมถึงพื้นที่เล็ก ๆ ของคนสองคน ก็จะแคบลง สุดท้ายก็ทำใจอึดอัดใจกันไปซะหมด 

          และคงไม่มีใครอยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับชีวิตรักของตัวเอง (จริงไหม) แต่เพราะรักบางทีมันก็ไม่มีเหตุผล ต้องอาศัย “ความรู้สึก” ล้วน ๆ ... มีแฟนอยู่แล้ว กลับไปรู้สึกดีกับใครอีกคนก็เยอะไป หรือรู้ทั้งรู้ว่าเขาหรือเธอมีคนรักเป็นตัวเป็นตน แต่ก็ยังไปรู้สึกดี ๆ ด้วย เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นต้องลองถามใจตัวเองดัง ๆ ว่าพร้อมหรือเปล่า?? กับการยอมรับความเจ็บปวด ที่คุณเองก็รู้อยู่แล้วว่าอย่างไรต้องพบเจอ

          จริงอยู่ที่ความรักไม่มีผิดหรือถูก แต่อย่าลืมว่าความรักไม่มีพื้นที่ให้คนสามคนยืนอย่างสบายใจ ยิ้มได้อย่างอิ่มใจหรอกนะ อยากเป็นคนเลือกหรือคนถูกเลือก ก็ลองชั่งใจและคิดดูดี ๆ ณ ปัจจุบันมันสุขหรือทุกข์มากกว่ากัน เกิดความรู้สึกหน่วง ๆ ครึ่ง ๆ กลาง ๆ มากน้อยแค่ไหนในแต่ละวัน ถึงจะเข้าใจและยอมรับได้ก็เถอะ แต่เชื่อว่าความรู้สึกเสียใจต้องโผล่ขึ้นมาให้หวั่นใจอยู่เป็นประจำ -_-"

          บางครั้งถ้าฟังเสียงหัวใจของตัวเอง แล้วปล่อยไปตามหัวใจ คุณอาจได้คำตอบที่ดีที่สุดของตัวเองก็ได้ เลือกทำในสิ่งที่ใจต้องการ และคิดว่ามันดีที่สุดสำหรับทุกคน

รอคอย

ใครสักคน...ที่มีค่าแก่การรอคอย...
ใครบางคน...ที่มีค่าพอให้รอคอยการรอคอย ... เป็นเรื่องที่ทรมาน
โดยเฉพาะการรอคอยที่จะกลับมาพบกัน หรือรอคอยใครสักคนที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
เพราะในเวลาแห่งการรอคอยนั้น มันมีมากกว่า 24 ชั่วโมง
และเข็มนาฬิกาก็เดินช้าขึ้นอีกเป็นเท่าตัว...

จากเวลาที่นานอยู่แล้วจึงนานยิ่งกว่า และการดำเนินชีวิตระหว่างการรอนั้น
ก็มีตัวแปรมากมายที่จะทำให้คนเปลี่ยนไปอยู่ทุกขณะ
เพราะทุกคนมีพื้นฐานความเหงา และโดดเดี่ยวอยู่ในตัวเอง พอๆ กับความอ่อนไหว
เป็นโอกาสที่ดีที่จะใช้ระยะทางเป็นเครื่องวัดความรู้สึก
พิสูจน์ความแข็งแรงของความรัก วัดการกระทำ...
ความเสมอต้นเสมอปลาย และความอดทน
ด้วยเงื่อนไขของความลำบากแห่งกาลเวลา และตัดสินว่า...การรอคอยจะคุ้มค่าหรือไม่
การอยู่ห่างกัน... จึงจำเป็นต้องพิสูจน์กันด้วยความเข้มแข็ง
ต่างคนต่างก็ต้องทำหัวใจให้เข้มแข็งกับอารมณ์ต่างๆ
ที่คอยรบกวน...และคอยชักจูงออกนอกลู่นอกทาง
เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่าย...ที่วันนึงเราพบว่า
คนคนหนึ่ง...คือคนที่ชีวิตเราตามหามาตลอด และใครสักคนที่เป็นได้อย่างที่เราฝัน
มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
และคนที่จะฝ่าฟันกับการบีบคั้นแห่งการรอคอย
กลับมาหาเราได้ก็ไม่ใช่เรื่องธรรมดา...
เพราะฉะนั้น...
ย่อมหมายถึง...ความรู้สึกที่เค้ามีอยู่ก็คงไม่ได้ธรรมดา
และคนคนนั้นก็ย่อมเต็มค่า
เวลาที่ชาวประมงจะเลี้ยงหอยมุก จะต้องใช้เวลาเนิ่นนาน
และสามารถรอคอยได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะเขารู้ว่า เมื่อไหร่ถึงเวลา
ที่มุกสามารถนำมาร้อยเป็นสร้อยได้
ย่อมเกิดค่ามหาศาล ...ชีวิตจึงจำเป็นต้องรอคอยใครสักคนให้ได้
หากรู้ว่าเป็นใครสักคน ...ที่มีค่าแก่การรอคอย...

วันอังคารที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เพียงเพราะคนที่เรารัก...ไม่รักตอบ

ทุ่มเทก็แล้ว ดีกับเขามากๆก็แล้ว...

ทุกอย่างที่ทำเพื่อคนที่เรารักก็ทำมาแล้ว

สุดท้ายเขาก็ยังไม่รักเรา เหมือนที่เรารักเขาเสียที

สิ่งที่เกิดขึ้นในใจจึงมีทั้งท้อ และดื้อรั้น...

ท้อ..เพราะผิดหวัง...รั้น..เพราะยังอยากสมหวัง...

เมื่อสองสิ่งที่ต่างขั้วมาอยู่รวมกัน มันก็เลยทำให้เราฟุ้งซ่าน

บางทีก็ทำอะไรโดยไม่รู้ตัว เช่น เขาไม่รักก็ได้แต่ตามตื้อเขา

เขารำคาญก็ยังสร้างความรำคาญให้เขาเพิ่มมากขึ้น...

ทำอย่างนี้เรามีความสุขหรือก็เปล่า

เขาจะชื่นชมยินดีกับสิ่งที่เราทำหรือก็ไม่...

เมื่อขึ้นชื่อว่า "ไม่ได้รัก" ต่อให้ดีแค่ไหน

หล่อแค่ไหน หรือสวยแค่ไหน

เขาก็ไม่มีทางปันใจมารักเราหรอก !

"เมื่อประตูบานแห่งความสุขปิดลง

ประตูแห่งความสุขบานอื่นก็จะเปิดขึ้น

หากเรามัวแต่มองประตูที่ปิดลงไปแล้วเนิ่นนาน

เราจะมองไม่เห็น ประตูแห่งความสุขบานอื่นที่เปิดไว้รอ..."

สำหรับคนที่รักเขาแล้วเขาไม่ได้รัก...

อย่าคิดว่าความสุขในชีวิตได้หมดลงแล้ว

เราจะรักใครชอบใครอีกไม่ได้แล้วในชาตินี้...

เราเพียงแค่ตั้งใจเอามือปิดตาทั้งสองข้างให้มองไม่เห็นอะไรก็เท่านั้น!

ลองเอามือออก...แล้วค่อย ๆ ลืมตา....

เราจะพบประตูแห่งความสุขที่อยู่รอบตัวอีกตั้งหลายบาน...

ลองตัดสินใจเดินไปที่ประตูบานอื่นดูสิ!...

อย่ายึดติดอยู่กับประตูที่ไม่ได้เปิดต้อนรับเราอีกต่อไปเลย

"คนทุกคนต่างเป็นเหมือนตัวจิ๊กซอว์...ที่ออกตามหากันและกัน

เมื่อค้นพบเจอตัวจิ๊กซอว์ที่ต่อกันติด...ก็จะเกิดภาพที่สมบูรณ์..."

หากเราไม่ใช่สำหรับเขา นั่นแสดงว่าเราไม่ใช่ตัวจิ๊กซอว์ที่หายไปของเขา

ความรักก็คงเป็นเช่นนั้นด้วย....

เพราะรักจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อคนสองคนมีใจที่ตรงกัน

มีสายใยบางๆที่คอยเชื่อมต่อถึงกัน...

ออกไปตามหาตัวจิ๊กซอว์ที่เหมาะสม และคู่ควรกับเราดีกว่า

อย่ามัวแต่ยึดติดกับรักที่ต่อไม่ติดให้เสียโอกาสตัวเองเลย

ชีวิตกล้าทำอย่างอื่นได้...ก็น่าจะกล้าหาญบอกลาจิ๊กซอว์ตัวปลอมตัวนั้น ได้

เรื่องอย่างนี้ มันอยูที่ "ใจ" เท่านั้น...

อย่าเสียใจ หากต้อง "ตัดใจ"...แต่จงดีใจที่ได้มีโอกาสได้ค้นหา

เพื่อที่จะได้พบเจอ "หัวใจ"...หัวใจดวงที่เราออกตามหามาตลอดทั้งชีวิต...